บิ๊กไบค์ BMW รีวิวบิ๊กไบค์

BMW S1000 RR

BMW S1000 RR

ประเภทรถ :  รถสปอร์ตขนาดใหญ่ ,Big bike

ระบบเกียร์

ระบบเกียร์ : ธรรมดาสปอร์ต 6 สปีด

รายละเอียดเครื่องยนต์ : 4 จังหวะ 4 สูบเรียง

ระบบระบายความร้อน : ระบายความร้อนด้วยน้ำ

ระบบสตาร์ท : สตาร์ทไฟฟ้า(มือ)

ระบบเครื่องยนต์

เครื่องยนต์ : 4 จังหวะ 4 สูบเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำ

ขนาดเครื่องยนต์ : 999 ซีซี.

อัตราส่วนการบีบอัด : 13.0: 1

กำลังสูงสุด :  199 แรงม้า ที่ 13500 รอบ/นาที

แรงบิดสูงสุด : 113 นิวตันเมตร ที่ 10500 รอบ/นาที

ประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง : แก๊สโซฮอล์ 91, เบนซิน 91 แก๊สโซฮอล์ 95,

เบนซิน 95

ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง :  ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบหัวฉีดอิเลคทรอนิคส์

ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง : 17.5 ลิตร

ระบบจุดระเบิด : ดิจิตอล

ระบบสตาร์ท : ไฟฟ้า

ระบบกันสะเทือนหน้า : โช้คหัวกลับขนาด Ø46 มม. สามารถปรับความหนืดได้

ระบบกันสะเทือนหลัง : สวิงอาร์มแบบอลูมิเนียม

ระบบเบรกหน้า : ดิสก์เบรกคู่ขนาด 320 มม. ปั้มเบรกเรเดียลเมาท์ 4 พอร์ท

ระบบเบรกหลัง : ดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 220 มม.ปั้มลอยตัว 2 พอร์ท

แบบวงล้อ : แม็กซ์

ขนาดยางหน้า : 120/70 ZR 17

ขนาดยางหลัง : 190/55 ZR 17

ขนาดรถ(ยาว X กว้าง X สูง มม.) : 2,073 มม. x 848 มม. x  1,151 มม.

น้ำหนัก : 179.5 กิโลกรัม

 

BMW S1000 RR

BMW S1000 RR 2019 ถ้าหากพูดถึงที่สุดของรถตระกูลนี้แล้ว BMW S1000RR ถือเป็นหนึ่งใน Sport Bikeที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในวงการบิ๊กไบค์ นับตั้งแต่เปิดตัวมาในปี 2010 โดยจุดเด่นของโฉมใหม่ของรถซีรีย์นี้ในปี 2019 อยู่ที่การออกแบบที่สื่อถึงความเร้าใจจากขุมพลังที่สามารถทำแรงม้าได้ถึง 190 ตัว พร้อมระบบอิเล็กทรอนิกส์สุดล้ำที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สัมผัสกับความสนุกสนานเร้าใจได้อย่างเต็มอิ่ม โดยยังคงความรู้สึกที่เป็นมิตร หรือขับขี่ได้ง่าย ใช้งานได้บ่อยกว่าสปอร์ตไบค์พันธุ์แท้ที่มีจำหน่ายทั่วๆ ไป จนกระทั่งมาตอกย้ำความสุดยอดในปี 2012 รวมถึงได้รับการปรับโฉมในปี 2015 ซึ่งเป็นที่จดจำของบรรดาสายลั่นขนาดที่ขี่ไปไหนก้ต้องเจอกันทุกไฟแดงเลยทีเดียว

BMW S1000RR มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบ 4 จังหวะ DOHC 16 วาล์ว ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาดเครื่องยนต์ที่ให้มามีขนาด 999 ซีซี. อัตราบีบอัด 13.3:1 กำลังเครื่องยนต์ที่ทำได้อยู่ที่ 207 แรงม้า ที่ 13,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 113 นิวตันเมตร ที่ 10,500 รอบต่อนาที ระบบเกียร์ธรรมดาแบบ 6 สปีด 

สิ่งที่เพิ่มมาให้ตื่นเต้นอีกอย่างคือ BMW Shift Cam ช่วยให้ BMW S1000RR 2019 ทำแรงม้าได้สูงถึง 204 ตัว โดยให้กราฟแรงม้าในช่วงรอบกลางที่ค่อนข้างกว้าง แท้จะใช้รอบเพียง 4300 – 8000 รอบ/นาที ก็มีแรงบิดออกมาให้ใช้แบบเหลือๆ ไม่รู้สึกถึงอาการหน่วงหรือหนืด แบบที่มักจะพบเห็นในมอเตอร์ไซค์ตระกูลสปอร์ต ซึ่งช่วยให้การขับขี่บนท้องถนนทำได้อย่างสนุกสนาน

แฟริ่งใหม่ที่ออกแบบให้รู้สึกถึงการขับขี่ที่โฉบเฉี่ยวที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง รวมไปถึงลวดลายต่างๆ ที่เพียงแค่มองแว๊บเดียวก็สามารถรู้ได้ทันทีว่ามันคือ S1000RR มาพร้อมชุดไฟหน้าที่LED ดีไซน์ใหม่

หน้าปัดเรือนไมล์แบบ TFT LCD (Thin Film Transistor) จอแสดงผลขนาดใหญ่ 6.5 นิ้วที่เป็นทั้งแบบ ดิจิตอลและอนาล็อก ผสมผสานกันอย่างลงตัว เสริมด้วยฟังก์ชั่นต่างๆ ที่มีมาให้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น การเซ็ตค่าของ DDC, DTC, การจับเวลาแบบต่อรอบ และ Lap Distance, Lap-Specific Speed, Active Riding Mode, Gear Changes per lap เป็นต้น

ระบบกันสะเทือนหน้าใช้โช้คหน้าหัวกลับ Up Side Down ขนาด 45 มม. พร้อมสามารถปรับ Preload และ Rebound ได้เต็มรูปแบบ ระบบกันสะเทือนหลัง สวิงอาร์มหลัง 2 แขน สามารถปรับ Preload และ Rebound ได้เต็มรูปแบบ ขนาดยางหน้าใช้ 120/70 ZR 17 ขนาดยางหลัง 190/55 ZR 17

สิ่งที่น่าจะเหลือกว่าคู่แข่งในClass เดียวกันนั้นก็คือระบบไฟฟ้าอันชาญฉลาดตามสไตล์ม้าศึกแห่งเยอรมัน ไม่ว่าจะเป็นระบบ IMU แบบ 6 แกน, Traction Control, ABS, Whellie Control รวมถึงระบบอื่นๆ ช่วยเติมความปลอดภัยให้ผุ้ขับขี่มากยิ่งขึ้น โดยไม่ลดทอนความเร็วในการขับขี่ลงมา

โดยทาง BMW เลือกสีให้เจ้า S1000RR ยังคงอยู่ในรูปแบบโทนสีรถแข่ง ซึ่งประกอบด้วย Red non-metallic/Light White non-metallic และ BMW Motorsport ( (Lupine Blue metallic/Light White non-metallic/Racing Red non-metallic ) โดยเปิดให้จับจองกันได้ในราคาเริ่มต้นที่ 840,000 บาท

#BMW S1000RR #ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *