ใน1เดือนเราควรล้างรถบ่อยแค่ไหน
เดือน ๆ หนึ่งเราควรล้างรถบ่อยแค่ไหน หรือจำเป็นแค่ไหนต้องล้างรถ มันต้องดูฤดูกาลด้วยแหละครับ ว่าเดือนหน้าฤดูอะไร ฤดูร้อนก็จะต้องขับรถลุยฝนที่ตก ไหนจะถนนที่มีน้ำท่วมขัง และทุกครั้งที่ขับรถลุยฝนไม่ใช่แค่รถเราเปียกฝนนะครับ ยังต้องโดนน้ำจากถนนที่กระเด็นมาเลอะรถเราอีก ในจะช่วงล้างที่ต้องลุยน้ำท่วมขัง แล้วถนนเมืองไทยบ้านเรามันราบเรียบซะทีไหนหล่ะ ประกอบกับถนนบ้านเราเดี๋ยวทำเดี๋ยวลอกถนน ทำกันอยู่นั่น ไหนจะขุดวางท่อขนาดใหญ่กันน้ำท่วมอีก ถ้าฤดูหนาวใช่ว่าจะไม่เปลื้อนนะครับ ฝุ่นเยอะอีกต่างหาก ล้างรถมาได้ 1 สัปดาห์ฝุ่นเกาะหนาแล้ว ต้องคอยปัดเช็ดฝุ่นอยู่เป็นประจำ ฤดูร้อนก็เช่นเดียวกันต้องเจอฝุ่นบางทีก็ต้องเจอกับพายุฤดูร้อนที่ฝนตกหลงฤดูอีกด้วยซ้ำไป
การที่เราต้องล้างรถ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศครับ และสภาพการจราจร เช่น ตอนนี้ฝนตกเข้าหน้าฝนเราลุยฝนมาหลายวันติด พอหมดฝนเราก็เอารถไปจอดไว้หน้าบ้าน แล้วลากสายยางเอาน้ำรถฉีดล้างทั้งคัน ล้างด้วยตัวเอง ด้วยน้ำยาล้างรถหรือน้ำยาล้างจานสัก 1 รอบ ล้างน้ำยาออก ให้เกลี้ยง แล้วเช็ดให้แห้งสัก 1 รอบก่อน ข้างในรถถ้าไม่มีฝุ่นละอองเยอะก็ปล่อยไว้งั้นแหละครับ หรือถ้าเราล้างเองที่บ้านแล้ว เราไม่มีเครื่องดูดฝุ่น ถ้ามีเครื่องดูดฝุ่น ลากเครื่องดูดฝุ่นมาดูดเองที่รถเถอะครับ แค่นี้ก็ประหยัดไปได้ 1 ครั้ง 160 บาทค่าล้างรถ
หรือเดือนนั้นฝนตกหนัก ๆ พายุฝนฟ้าคะนองเข้าเมืองไทย เราลุยฝนตกหนักมาตลอดเช้าเย็นแบบนี้ทั้งสัปดาห์ คือ เอาน้ำเปล่าล้างไปแล้ว เช็ดให้แห้งแล้ว เราควรเอารถเข้าล้างที่คาร์แคร์ เดือนละครั้งนะครับ สำหรับฤดูฝน เพื่อล้างอัดฉีดเอาน้ำฉีดช่วงล่าง ที่มีดินติดโคลนติดล้อต่าง ๆ ติดท้องรถ เพราะเราลุยฝนที่ตกหนักมาเกือบเดือนแล้วนะครับ เราล้างแค่ด้านบนด้านล่างไม่ได้ล่าง สำหรับฤดูฝน เราควรเอาเข้าคาร์แคร์เพื่อล้างอัดฉีด เป็นประจำทุกเดือน ส่วนฤดูอื่น ๆ ถ้าเราจะล้างเอง เพื่อประหยัดเงินก็เรื่องของเราครับ
เราล้างรถบ่อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ กับการจราจรการทำถนนหนทางของบ้านเรา ถ้าลอกถนนลาดยางใหม่ หรือขุดข้างถนนเพื่อวางท่อ ถ้าเราไม่อยากลุยน้ำที่เปียกถนน หรือฝนที่ทำถนนหนทาง เลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น ๆ ครับที่ไปสู่จุดหมายได้เหมือนกัน รถเราจะได้ไม่เปื้อนและไม่ต้องล้างรถบ่อยอีกด้วยครับ
ใน1เดือนเราควรล้างรถบ่อยแค่ไหน