วิธีตรวจเช็คสภาพมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ ทำได้ไม่ยากเพียงสังเกตสิ่งเหล่านี้
การตรวจเช็คสภาพรถมอเตอร์ไซค์ทุกรุ่นถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ เพื่อให้รถของเราสามารถใช้งานได้ในระยะเวลานานและมีการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งการตรวจเช็คนั้นไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ยาก เพียงแค่มีการสังเกตและมีความใส่ใจก็จะทำให้สามารถรู้ได้เลยว่า ระยะเวลาไหนที่เหมาะแก่การพารถไปเข้าศูนย์เพื่อทำการเปลี่ยนเครื่องยนต์เพื่อให้ได้มาตรฐานและกลับมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องมีความเสี่ยงที่จะเกิดเครื่องขัดข้องในระหว่างการใช้งานอยู่
วิธีตรวจเช็คสภาพมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ ที่ทำได้ง่ายมากที่สุด
การตรวจเช็คสภาพรถนั้นมีหลายวิธีด้วยกัน ซึ่งวิธีที่ง่ายที่สุดก็คือ การสังเกตจุดหลัก ๆ 4 จุดนี้ จุดแรกก็คือ การดูแลเครื่องยนต์ จุดที่สองก็คือ ระบบความปลอดภัย จุดที่สามคือ ระบบไฟและแบตเตอรี่ และจุดที่สี่คือ ยาง ทั้ง 4 จุดนี้มีความสำคัญกับรถบิ๊กไบค์มาก หากมีจุดใดจุดหนึ่งที่เกิดความเสียหายอาจจะทำให้การทำงานของเครื่องมีความขัดข้องได้ทันทีหรือบางจุดส่งผลเรื่องความทรงตัวในเรื่องการขับขี่ ซึ่งไม่ว่าจุดไหนจะมีปัญก็ถือว่าเป็นผลที่ไม่ดีทั้งสิ้น มาดูกันว่าวิธีตรวจเช็คของทั้ง 4 จุดนี้จากการสังเกตนั้นสามารถทำได้อย่างไร
วิธีตรวจเช็คสภาพมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ ด้วยการสังเกต 4 จุดสำคัญ
จุดที่หนึ่ง การดูแลตัวเครื่อง สำหรับการดูแลตัวเครื่องแนะนำให้เข้าศูนย์อยู่เป็นประจำหากว่าได้มีการวิ่งครบระยะทาง 1,000 กิโลเมตรแล้ว เพราะบางอย่างจะมีอายุการใช้งานได้เพียง 1,000 กิโลเมตรเท่านั้น เมื่อครบตามที่กำหนดก็ต้องทำการเปลี่ยนทันที แต่ถ้าเป็นระบบจ่ายความร้อน และน้ำมันเครื่องต้องมีการตรวจเช็คทุกระยะทาง 100 กิโลเมตร หรือถ้าเป็นโซ่จะต้องมีการตรวจทุกระยะทาง 300 กิโลเมตร สำหรับการเริ่มต้นของการเข้าศูนย์เพื่อตรวจสอบตัวเครื่องแนะนำให้เริ่มเข้าตั้งแต่ระยะ 1,000 กิโลเมตร
จุดที่สอง ระบบความปลอดภัย สำหรับระบบนี้เป็นระบบที่ต้องมีความใส่ใจทุกอย่างให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการเช็กโช้คหน้าโช้คหลังที่ต้องมีการเปลี่ยนทุกระยะทาง 10,000 กิโลเมตร การเช็คลูกปืนคอ ลูกปืนล้อหน้า หรือระบบเบรกหน้าเบรกหลัง และสายคลัทซ์ แนะนำว่าให้เริ่มเข้าตรวจเช็คอย่างตั้งแต่มีระยะทางการวิ่งระยะทาง 5,000 กิโลเมตร
จุดที่สาม ระบบไฟและแบตเตอรี่ สำหรับระบบนี้อาจจะมีการตรวจเช็คที่มีความถี่กว่าระบบอื่น ๆ เริ่มแรกด้วยการล้างคราบเกลือที่ขั้วแบตเตอรี่และทำการทำจารบีทุก ๆ 1 เดือน ต่อมาตรวจเช็คระดับน้ำกลั่นและวัดไฟทุกระยะทาง 800 กิโลเมตรและต้องมีการเปลี่ยนแบตเตอรี่ในทุก ๆ 2 ปี และสิ่งสุดท้ายก็คือ การวัดระดับไฟทุกระยะ 2,500 กิโลเมตร และต้องมีการเปลี่ยนแบตทุก 2 ปี
จุดที่สี่ยาง ยางจะเป็นจุดที่มีการดูแลได้ง่ายมากที่สุด แต่ต้องมีการตรวจเช็คอยู่เป็นประจำและต้องมีการเติมลมยาง สำหรับการเติมลมยางแนะนำว่าให้เติมแบบพอดี ไม่แข็งและไม่อ่อนจนเกินไป เพราะถ้าหากว่าไม่ตรวจเช็คยางเป็นประจำก็อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้อย่างง่าย ๆ
วิธีตรวจเช็คสภาพมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ ส่วนใหญ่จะเน้นเรื่องความใส่ใจเป็นหลัก
เพราะถ้าหากว่าผู้ขับขี่มีความใส่ใจสังเกตในระยะทางการขับขี่ว่า ระยะทางขับนั้นได้ใช้ไปแล้วเท่าไหร่ ก็จะทำให้รู้ว่าการแต่ละระยะทางที่ใช้ไปนั้นผู้ขับขี่ต้องมีการนำจุดไหนไปเปลี่ยน หรือนำจุดไหนไปเข้าศูนย์เพื่อทำการตรวจเช็คสภาพแบบจริงจังทุกส่วนของรถ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผู้ขับขี่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะทุกสภาพของรถนั้นเป็นตัวกำหนดในเรื่องความปลอดภัยในการขับขี่ได้มากที่สุด
