ทำความรู้จักหมวกกันน็อคแต่ละประเภท
การสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยอย่างสวมใส่หมวกกันน็อค เป็นสิ่งจำเป็นที่สุดสำหรับเหล่าสาวก Bigbike มีประโยชน์เพื่อป้องการบาดเจ็บหรือป้องกันอันตรายเมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ควรสวมใส่หมวกกันน็อคก่อนขับขี่ทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่เองและผู้ร่วมใช้ถนน เราจึงมานำเสนอเกร็ดเล็กน้อยของหมวกกันน็อคแต่ละประเภท
หมวกกันน็อคเเบบเต็มใบ ( Full face )
ถือว่าเป็นหมวกกันน็อคที่ปลอดภัยที่สุด เป็นหมวกที่คลุมทั้งศรีษะ ปิดใบหน้าเเทบทั้งหมด สำหรับคนที่ไม่เคยใส่อาจจะทำให้เกิดความรำคาญได้เพราะมันทำให้หายใจไม่ค่อยสะดวก และบดบังทัศนวิสัย เเล้วยิ่งถ้าใส่ในเมืองไทยด้วยมันจะร้อนเป็นอย่างมากเเต่หมวกกันน็อคประภาทนี้เป็นที่นิยมมากในกลุ่ม Bigbike เเละยังเป็นหมวกประเภทเดียวที่ใช้เเข่งในสนาม ข้อดีของหมวกประเภทนี้คือเป็นหมวกที่ค่อนข้างเซฟตี้มากๆ ทั้งยังมีการออกเเบบมาเพื่อการขันขี่รถความเร็วสูง หมวกประเภทนี้ราคามีตั้งเเต่หลักพันจนถึงหลักหมื่นหลักเเสนเลยที่เดียว ซึ่งราคาจะขึ้นอยู่กับคุณภาพหรือวัสดุที่เเต่ละค่ายผลิต อีกหนึ่งตัวเเปรที่หมวกประเภทนี้เป็นที่นิยมมากๆกับกลุ่มนักบิดทั้งหลายเเหล่คือหมวกประเภทนี้คือมันเป็นหมวกที่สามารถนำมาขายต่อได้ เเละราคาซื้อ-ขาย ก็ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว
หมวกกันน็อคแบบครึ่งใบ ( Half face )
เราสามารถเห็นได้ทั่วไปตามท้องตลาดมีผู้ใช้งานค่อนข้างมาก เนื่องจากสวมใส่ได้ง่าย มักจะนำมาเป็นของแถมเมื่อเราซื้อรถจักยานยนต์ ราคาจะเริ่มต้นจากหลักร้อยจนถึงหลักพัน แต่ประสิทธิภาพป้องกันความปลอดภัยค่อนข้างต่ำ เมื่อประสบอุบัติเหตุจะป้องกันเฉพาะด้านบนของศรีษะ วัสดุที่ใช้ทำเป็นประเภทพลาสสติกเนื้อแข้งเหมาะสำหรับขับขี่ด้วยความเร็วไม่เกิน 50 กิโลเมตร/ชั่วโมง ไม่กระจกป้องกันลมหรือแมลงเข้าตา หรืออาจมีเศษวัสดุเข้าตาได้ง่ายอาจเป็นสาเหตุไห้เกิดอุบัติเหตุ ว่ากันง่ายๆๆหมวกประเภทนี้เหมาะสมสำหรับกับขับขี่ความเร็วไม่มากนั่นเอง
หมวกกันน็อคแบบเปิดหน้า ( Open face )
เป็นหมวกกันน็อคที่สาวกบิกไบด์นิยมใช้มากที่สุดมีราคาตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักหมื่น วัสดุที่นิยมนำมาผลิตได้แก่พลาสติกเนื้อแข็งจนถึงคาร์บอนไฟเบอร์ มีกระจกบังลมป้องกันเศษวัสุหรือแมลงเข้าตา ประสิทธิภาพความปลอดภัยครอบคลุมทั้งศรีษะ เหมาะสำหรับขับขี่เดินทางในเมืองหรือระหว่างเมือง ข้อเสียคือไม่ส่วนป้องกันส่วนคางและลมสามารถเข้าได้ตรงส่วนนี้เองทำไห้ตาแห้งเวลาขับขี่ และยังมีหมวกกันน็อคแบบเปิดหน้าอีกแบบ แต่ไม่มีกระจกบังลมหรือเศษวัสดุ เรียกกันว่า ” หมวกแบบคลาสสิค ” หรือหมวก 5 เป็ก วัสดุที่นำมาทำเป็นพลาสติคเนื้อแข็งไม่นิยมทำล่องรีดลม นิยมทำไห้เรียบ ข้อเสียไม่ส่วนป้องกันของคาง เรียกกันอีกชื่อว่า ” หมวก ค่าเฟ่ ” นั่นเอง
หมวกกันน็อคแบบยกคาง ( Modula )
เป็นหมวกกันน็อคที่รวมข้อดีของหมวกแบบเปิดหน้าและเต็มใบไว้ด้วยกัน สามารถยกคางได้เหมาะสำหรับผู้ต้องการความสะดวกสบายในการขับขี่และยังมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง วัสดุที่นิยมนำมาใช้ผลิตตั้งแต่วัสดุเนื้อแข็งไปจนถึงคาร์บอนไฟเบอร์ มีราคาค่อนข้างสูง และต้องผ่านมาตราฐาน มอก ของกระทรวงอุตสาหกรรม ส่วนไหญ่มักใช้งานกับรถประเภท ทัวลิ่ง( touring bike ) หรือ Skooter หมวกประเภทนี้มีอุปกรณ์เสริมค่อนข้างมากเช่น หูฟังหรือไมโครโฟนที่ไว้สื่อสาร จึงทำไห้มีน้ำหนักค่อนข้างมาก สำหรับสาวก bigbike สายทั่วริ่งจะเลือกใช้หมวกประเภทนี้เป็นหลัก
หมวกกันน็อคแบบวิบาก ( Dirt , Motocross )
เป็นหมวกที่เหมาะใช้งานแบบ Off road ลักษณะของหมวกจะมีส่วนที่เป็นยื่นออกมาเพื่อเป็นส่วนป้องกันความปลอดภัยในส่วนคาง เพราะในสภาพการขับขี่ที่เป็นแบบออฟโร็ดอุบัติเหตุจะเกิดกับส่วนคางก่อนเช่นการตีลังการโชว์เป็นต้น หมวกกันน็อคแบบนี้จะไม่กระจกกันลม แต่ออกแบบมาเว้นช่องว่างช่วงตาไว้เพื่อไห้ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้แว่น/google แบบรัดกับหมวกได้ และมีปีกหมวกด้านบนเพื่อป้องกันหินหรือโคลนได้ สำหรับวัสดุที่ใช้งานนิยมใช้ตั้งแต่พลาสติคเนื้อแข็งไปจนถึงคาร์บอนไฟเบอร์ และต้องผ่าน มอก มาตราฐานความปลอดภัยด้วยนะครับ จึงจะนำมาจำหน่ายและใช้งานด้านความปลอดภัยได้
หมวกกันน็อคแบบกึ่งวิบาก/ทัวริ่งแอดแวนเจอร์ ( Dual sport )
ลักษณะหมวกแบบนี้คล้ายกับหมวกวิบากต่างกันมีกระจกกันลมและมีแว่นกันแดดเสริมอีกชั้นข้างในเพื่อป้องกันแสงแดดเข้าตาขณะขับขี่ทางไกล และมีปีกหมวกด้านบนเพื่อป้องกันแสงเข้าตาอีกเช่นกัน หมวกแบบนี้เหมาะสำหรับขับขี่แบบทัวริ่งแอดเวนเจอร์ วัสดุที่นิยมใช้ผลิตไล่ตั้งแต่พลาสติคเนื้อแข็งไปจนถึงคาร์บอนไฟเบอร์ การ ทำความรู้จักหมวกกันน็อคแต่ละประเภท อาจเป็นประโยชน์ช่วยท่านในการเลือกซื้อหมวกกันน็อคและขอแนะนำให้เลือกที่ผ่านการตรวจมารตาฐาน มอก.เพื่อความมั่นใจและความปลอดภัยในตัวคุณเองนะครับ