กฎกติกาที่ควรรู้ ก่อนเริ่มดู Moto GP
การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบ หรือ Moto GP เป็นการแข่งขันที่เหมือนมอเตอร์สปอร์ตทั่วไป คือการได้ผู้ชนะจะตัดสินผ่านความเร็วในการเข้าเส้นชัย แต่ถ้าตัดสินเพียงเท่านั้นมันก็จะดูง่ายเกินไปสำหรับการแข่งขันที่เป็นระดับสากลและเป็นมืออาชีพ ฉะนั้นการที่จะควบคุมการแข่งขันให้เรียบร้อย และ ยุติธรรมสำหรับทุกฝ่าย จึงมีกฎกติกามากกว่านั้น ซึ่งแฟนๆ Moto GP ก็ควรที่จะทราบกฎกติกาเบื้องต้นไว้บ้าง เพื่ออรรถรสในการรับชม
ส่วนกฎกติกาที่เกี่ยวกับตัวนักขับและรถที่ใช้นั่นก็มีเช่นเดียวกัน โดยนักแข่งที่จะลงแข่งใน Moto GP นั้นต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปแต่ต้องไม่เกิน 50 ปี ส่วนรถต้องเป็นรถที่มีขนาดความจุเครื่องยนต์ตั้งแต่ 800 – 1,000 CC ไม่มีการติดตั้งระบบ Turbo ให้ใช้กระบอกสูบที่ผลิตจากคาร์บอน และน้ำหนักตัวรถต้องไม่ต่ำกว่า 157 กิโลกรัม หากฝ่าฝืนจะถูกห้ามแข่งในสนามนั้น ๆ ทันที
ส่วนข้อที่ฝ่าฝืนแล้วโดนตัดแต้มจะเกี่ยวกับปริมาณอะไหล่ที่ใช้ อาทิเช่น ยางรถยนต์ที่ใช้ต้องไม่เกิน 120 ชุดต่อหนึ่งฤดูกาล และเครื่องยนต์ที่ใช้ก็ห้ามเกิน 5ลูกต่อฤดูกาลเช่นเดียวกัน ซึ่งการลงโทษนักแข่งนั้น จะแบ่งเป็นลำดับขึ้นคะแนน ยิ่งหักเยอะบทลงโทษก็จะรุนแรงขึ้น หากโดนหักคะแนนครบ 4 คะแนน จะถูกลงโทษออกสตาร์ทแถวหลังสุด, ครบ 7 คะแนน ให้ออกสตาร์ทจาก Pit Lane ไม่เกิน 60 กิโลเมตร/ชั่วโมงกลับสู่สนามและถ้าครบ 10 คะแนนจะถูกสั่งห้ามแข่งในสนามถัดไปทันทีโดยไม่สามารถขออุทธรณ์โทษได้ ซึ่งคะแนนคาดโทษจะถูกรีเซ็ตเมื่อแข่งจบในปีนั้นๆ
นี่ก็เป็นกฎกติกาพื้นฐานบางส่วนที่นำมาฝากกัน ซึ่งจริงๆแล้วกฎกติกาของ Moto GP จะมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกมากมาย ผู้ที่ต้องการศึกษาเพิ่มเติมสามารถหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตได้ แต่ข้อมูลที่นำมาฝากก็เพียงพอที่จะดูการแข่งขัน Moto GP ให้สนุกได้แล้วกฎกติกาแรกที่ควรทราบเลยคือรูปแบบการแข่งขัน ซึ่ง Moto GP ใช้รูปแบบการแข่งขันเหมือนกับลีกกีฬาอาชีพอื่นๆทั่วไปคือ ใช้การแข่งเป็นฤดูกาล เพื่อหานักแข่งที่ผลงานดีที่สุดและสม่ำเสมอที่สุดในปีนั้น ๆ
ซึ่งการจะตัดสินได้นั้นต้องใช้การให้คะแนนในแต่ละอันดับที่เข้าเส้นชัย โดยเพื่อความชัดเจนของผู้ชนะจึงมีเกณฑ์การให้คะแนนที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ จากนักแข่งที่แข่งขันทั้งหมด จะได้รับคะแนนแค่เพียง 15 อันดับแรกเท่านั้น เริ่มจากผู้ชนะของสนามนั้นๆจะได้รับ 25 คะแนน ที่สองได้ 20 คะแนน ที่สาม 16 คะแนน และที่สี่ได้ 13 คะแนน ส่วนอันดับที่ 5-15 จะได้รับคะแนนตั้งแต่ 11 คะแนนไล่ลงไปจนถึงที่15 จะได้รับ 1 คะแนน ซึ่งนักแข่งแต่ละคนต้องทำอันดับเพื่อสะสมคะแนนก่อนสุดท้ายจบ 18 สนาม เพื่ออันดับในปีนั้นๆ กติกาต่อมาคือการแข่งขันจะแบ่งเป็น 3 วัน
โดยวันแรกจะเรียกว่า วันฝึกซ้อม ให้นักแข่งทำการฝึกซ้อมในสนามจริงซึ่งนักแข่งแต่ละคนจะมีเวลา 45 นาที ต่อ 1 รอบ ส่วนวันที่ 2 คือวันจัดอันดับ นักแข่งจะทำการขับในสนามจริงเหมือนซ้อมแต่จะมีการจับเวลาเพื่อหานักแข่งที่เวลาดี ใช้ในการจัดอันดับการออกตัวในวันแข่งขันจริงซึ่งจะแข่งในวันที่ 3 ซึ่งเป็นการแข่งที่เราได้เห็นจากการถ่ายทอดสดนั้นเอง
